เมนู

ทัพพีตักเนยใสอันเดือดพล่านในที่ทอดขนมแล้ว ก็เดินมุ่งหน้าตรงไปหา
นางอุตตรา. นางอุตตราเห็นนางสิริมาเดินมา จึงแผ่เมตตาไปถึงนางว่า
" หญิงสหายของเราทำอุปการะแก่เรามาก, จักรวาลก็แคบเกินไป, พรหม-
โลกก็ต่ำนัก, ส่วนคุณของหญิงสหายเราใหญ่มาก; ก็เราอาศัยนางนั่น จึงได้
เพื่อถวายทานและฟังธรรม; ถ้าเรามีความโกรธเหนือนางสิริมานั้น เนยใส
นี้จงลวกเราเถิด; ถ้าไม่มี อย่าลวกเลย. " เนยใสซึ่งเดือดพล่านที่นางสิริมา
นั้นรดลงเบื้องบนนางอุตตรานั้น ได้เป็นเหมือนน้ำเย็น.
ลำดับนั้น พวกทาสีของนางอุตตรา เห็นนางผู้ตักเนยใสให้เต็มทัพพี
อีกด้วยเข้าใจว่า " เนยใสนี้คงจักเย็น ถือเดินมาอยู่ จึงคุกคามว่า " นาง
หัวดื้อ เจ้าจงหลีกไป, เจ้าไม่ควรจะรดเนยใสที่เดือดพล่าน บนเจ้าแม่ของ
พวกเรา " แล้วต่างลุกขึ้นจากที่นี้บ้าง ที่นั้นบ้าง ใช้มือบ้าง เท้าบ้าง ทุบ
ถีบให้ล้มลงบนพื้น. นางอุตตราไม่สามารถจะห้ามปรามนางทาสีเหล่านั้น
ได้. ทีนั้นนางจึงห้ามทาสีทุกคน ที่ยืนคร่อมอยู่ข้างบนนางสิริมานั้นแล้ว
ถามว่า " เพื่อประสงค์อะไร เธอจึงทำกรรมหนักถึงปานนี้ ? " ดังนี้แล้ว
โอวาทนางสิริมา ให้อาบด้วยน้ำอุ่น ทาด้วยน้ำมันที่หุงตั้ง 100 ครั้ง.

นางสิริมารู้สึกตัวขอโทษนางอุตตรา


ขณะนั้น นางสิริมานั้นรู้สึกตัวว่าเป็นหญิงภายนอกแล้ว คิดว่า " เรา
รดเนยใสที่เดือดพล่านลงเบื้องบนนางอุตตรานี้ เพราะเหตุเพียงความหัวเราะ
ของสามี ทำกรรมหนักแล้ว, นางอุตตรานี้ไม่สั่งบังคับพวกทาสีว่า ' พวก
เธอจงจับเขาไว้ ' กลับห้ามพวกทาสีทั้งหมด แม้ในเวลาที่ข่มเหงเรา ได้
ทำกรรมที่ควรแก่เราทั้งนั้น; ถ้าเราไม่ขอให้นางอุตตรานี้อดโทษให้, ศีรษะ

ของเราจะพึงแตกออก 7 เสี่ยง " ดังนี้แล้ว จึงหมอบลงแทบเท้าของนาง
อุตตรานั้น แล้วกล่าวว่า " คุณแม่ ขอคุณแม่จงอดโทษให้ดิฉันเถิด. "
นางอุตตรา. ดิฉันเป็นธิดาที่มีบิดา เมื่อบิดาอดโทษให้. ก็จักอด
โทษให้.
นางสิริมา. คุณแม่ ข้อนั้นจงยกไว้เถิด. ดิฉันจักให้ท่านปุณณ-
เศรษฐีผู้บิดาของคุณแม่อดโทษให้ด้วย.
นางอุตตรา. ท่านปุณณะ เป็นบิดาบังเกิดเกล้าของคุณแม่ในวัฏฏะ,
แต่เมื่อบิดาผู้บังเกิดเกล้าในวิวัฏฏะอดโทษให้ ดิฉันจึงจักอดโทษ.
นางสิริมา. ก็ใครเล่า ? เป็นบิดาบังเกิดเกล้าของคุณแม่ในวิวัฎฎะ.
นางอุตตรา. พระสัมมาสัมพุทธเจ้า.
นางสิริมา. ดิฉันไม่มีความคุ้นเคยกับพระองค์.
นางอุตตรา. ฉันจักทำเอง. พรุ่งนี้ พระศาสดาจักทรงพาภิกษุสงฆ์
เสด็จมาที่นี้: เธอจงถือสักการะตามแต่จะได้มาที่นี้แหละ แล้วขอให้พระ-
องค์อดโทษเถิด.

นางสิริมาขอให้พระศาสดาทรงอดโทษ


นางสิริมานั้นรับว่า " ดีละ คุณแม่ " ลุกขึ้นแล้วไปสู่เรือนของตน
สั่งหญิงบริวาร 500 ให้ตระเตรียมขาทนียะและสูเปยยะ1ต่าง ๆ อย่าง รุ่ง
ขึ้นก็ถือสักการะนั้นมาเรือนของนางอุตตรา ไม่กล้าจะใส่บาตรภิกษุสงฆ์
มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข จึงได้ยืนอยู่แล้ว. นางอุตตรารับเอาสิ่งของ
ทั้งหมดนั้นมาจัดแล้ว.
1. สูเปยฺย วัตถุเป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่สูปะ.